ตลาดน้ำวัดสะพาน


          บรรยากาศ 2 ฟากฝั่งคลองที่เขียวชอุ่บไปด้วยต้นไม้ และเรือกสวนของชาวตลิ่งชันที่ยังคงดำเนินชีวิตด้วยวิถีแห่งเกษตรกรมาจนถึงทุกวันนี้ บ้านเรือนริมน้ำของชาวบ้านเรียงรายไปตลอดทางจนเกิดเป็นชุมชนริมน้ำขึ้นทั่วไป เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวชมวิถีเก่าๆ ชมผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้านหรือจะพายเรือชมสวนร่วมกันแล้วยังมีโอกาสได้สักการะทำบุญไหว้พระที่วัดสะพานซึ่งเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในย่านฝั่งธนบุรี




          ตลาดน้ำน้องใหม่อีกแห่งที่ตั้งกันมาไม่กี่ปีนี้เอง คือ ตลาดน้ำวัดสะพาน ที่ถ้าเทียบกับรุ่นตลาดเก่าแก่อายุเป็น 100 ปี ที่นี่ก็เรียกได้ว่าเป็นชั้นรุ่นเหลน แต่เสน่ห์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของตลาดน้ำในย่านนี้ก็คือ ตลาดในเมืองกรุงที่ยังมีกลิ่นอายของชุมชนชาวสวนริมคลองให้ได้มาสัมผัส
          นอกจากนี้แล้วตลาดน้ำวัดสะพาน ยังเป็นหนึ่งในตลาดน้ำในกลุ่มชุมชนท่องเที่ยวยั่งยืน ที่ประกอบไปด้วยตลาดน้ำตลิ่งชัน ตลาดน้ำคลองลัดมะยม แล้วก็ที่ตลาดน้ำวัดสะพานแห่งนี้
ผู้ริเริ่มตลาดน้ำมาก็คือ พันตำรวจตรีสิทธิชน อังศุศาสตร์ ซึ่งมาดำรงตำแหน่งเป็นสารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลบางเสาธง
          ในช่วงต้นปี 2548 คุณตำรวจได้ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งก็รวมไปถึงบริเวณวัดสะพานและเห็นว่าวัดแห่งนี้มีความเงียบสงบ บรรยากาศร่มรื่น ในคลองหน้าวัดเต็มไปด้วยปลาสวายตัวโตๆ ว่ายน้ำกันสนุกสนาน เมื่อเห็นดังนั้นคุณตำรวจก็เกิดความคิดอยากจะตั้งตลาดน้ำขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและรู้จักวัดสะพานกันมากขึ้น เพราะนอกจากจะมีความเก่าแก่แล้วก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายอย่างด้วยกัน





          ด้วยเหตุที่ว่า พันตำรวจตรีสิทธิชนก็เลยนำ ไวยาวัจกร และชาวชุมชนวัดสะพาน ซึ่งหลายฝ่ายก็เห็นด้วยกับการมีตลาดน้ำ จึงได้เริ่มมีการสำรวจและสร้างตลาดน้ำวัดสะพานขึ้นโดยการระดมเงินทุนของตังเองและเพื่อนๆ แน่นอนว่าในช่วงแรกๆ ก็ยังขลุกขลังอยู่ไม่น้อย เพราะมีบางคนไม่เห็นความสำคัญ อีกทั้งยังขาดงดประมาณในการพัฒนา ประชาสัมพันธ์ และอื่นๆอีกมากมาย
          โครงการชุมชนท่องเที่ยวยั่งยืนที่ว่านี้เป็นความร่วมไม้ร่วมมือกันระหว่าง ผู้ดูแลพื้นที่คือ กรุงเทพมหานครที่มีกองการท่องเที่ยวเป็นเจ้าภาพ กับ มหาวิทยาลัยศิลปกร ที่จะส่งเสริมการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนโดยผ่านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
          ตัวตลาดอยู่ในบริเวณวัดสะพาน ที่ตั้งอยู่ริมคลองบางน้อย
          ตัววันจะหันหน้าเข้าสู่คลอง ที่เป็นเส้นทางคมนาคมหลักในอดีต ส่วนด้านที่เป็นถนนเข้าวัดนี้ ชาวบ้านเรียกกัยว่าด้านหลังวัด
          เรียกว่าย่านนี้ยังคงมีความเป็นเป็นย่านสวนชานกรุงที่ว่าจะรองเปิดแผนที่ดาวเทียมกันดูก็จะเห็นว่าย่านนี้ยังมีพื้นที่สีเขียวเป็นบริเวณกว้าง ต่างจากพื้นที่รอบออกไปที่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างบ้านเรือน

         ไหนๆตลาดน้ำวัดสะพานแล้วก็ถือโอกาสเที่ยววัดในคราวเดียวกันเลย วัดสะพานหรือวัดตะพาน สร้างขึ้นเมื่อปี 2320 สมัยกรุงธนบุรี เดิมเป็นอาคารไม้ แต่เมื่อไทยพบกับพม่า พระพุทธรูปในวัดถูกข้าศึกทำลายไปหลายองค์ เพราะคิดว่าถายในองค์พระจะเป็นทองเช่อเดียวกับพระที่อยุธยา มีเพียงพระพุทธรูป 3 องค์ที่รอดพ้นจากการถูกทำลาย คือ หลวงพ่อโต หลวงพ่อกลาง และหลวงพ่อดำ ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารโถงขนาดเก้าห้อง ซึ่งมีร่องรอยของกำแพงแก้วเดิมจมดินอยู่โดยรอบ


                                                                                                                                          By admin Wan